เรียนรามฯ
อย่างไร
ให้จบ 3 ปี
( เกียรตินิยม )
เรียนเอง
ไม่ต้องพึ่งติวเตอร์ ตอนที่ 1
ก่อนจะเล่าถึงประสบการณ์เรียนราม ก็ขอแนะนำตัว
และที่มาของผมให้เพื่อนๆทราบเสียก่อนนะครับ
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด
ซึ่งตอนเรียนมัธยมจัดได้ว่าเป็นเด็กหลังห้อง พอว่างก็เตะบอล
หนังสือหนังหาไม่เคยอ่านหรอกครับ
ส่วนเรื่องเกรดเฉลี่ยนั้น เคยได้เกรดต่ำสุดตอนเรียนอยู่ที่ 1.71
มากสุดไม่เกิน 2.15 เป็นไงบ้างล่ะครับ เกรดแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงตอนเอนทรานซ์นะครับ
(ไม่ติดอยู่แล้วล่ะครับ) จึงทำให้มหาวิทยาลัยที่ผมใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆคือ
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( 555+ พูดจริงนะเนี่ย) งั้นขอเริ่มเลยนะครับ ก่อนจะเริ่มผมขอโชว์ของก่อนละกันครับ เอาเป็นว่าผมเขียนมาจากประสบการณ์เรียนจริง
และมีเจตนาเพื่อให้รุ่นน้องได้ใช้ศึกษาเป็นแนวทางในการเรียนให้สำเร็จครับ
เริ่มเข้าเรียน
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้อย่างไร แล้วเรียนคณะไหน ?
สาเหตุที่เลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง อันดับแรกเลยคือ
เป็นมหาวิทยาลัยเปิด(ไม่ต้องสอบ)
ในตอนนั้นคิดเพียงว่าเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับคนอกหักจากมหาวิทยาลัยปิด(แต่ปัจจุบันไม่ได้คิดอย่างนั้นแล้ว) อีกเหตุผลที่เลือกเรียนคือ
ค่าหน่วยกิจถูกที่สุดในโลก ตอนที่ผมเรียนนั้น
ปี 2544 หน่วยกิจละ 25 บาท 1 วิชามี 3 หน่วยกิจ ก็วิชาละ 75 บาท
ถูกมากอ่ะ ถ้าคิดตลอดหลักสูตร ต้องเรียนให้ครบ 145 หน่วยกิจ จ่ายเพียง
3,625 บาท (อันนี้ไม่รวมค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมต่างๆนะครับ)
ก็เลยตัดสินใจเรียนเลย เพราะไม่อยากเป็นภาระให้กับพ่อแม่
(อารมณ์แบบว่าทำเรื่องหนักใจให้ท่านมามากละ คราวนี้ขอเรียนไถ่โทษ) ในตอนนั้นผมเลือกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ อันนี้เพราะว่า
ตอนดูข่าวเศรษฐกิจไม่รู้เรื่องเลย
ก็เลยอยากรู้เรื่องกับเขาบ้าง
ประกอบกับในตอนนั้น รายการของคุณไตรภพ สัมภาษณ์คุณนาวิน ต้า ซึ่งพึ่งจบคณะเศรษฐศาสตร์
ที่มหาวิทยาลัยเกษตร
ได้เกียรตินิยมอันดับ1(เหรียญทอง) ตอนนั่งดูผมคิดในใจ อยากได้บ้างอ่ะ จะทำให้ดู
แต่ในมุมพ่อแม่แล้ว
ผมเคยถามท่านดูนะครับ
ท่านบอกว่าไม่รู้ว่าผมจะเรียนจบหรือเปล่า
(ตอนถามนั้นคือตอนที่ผมเรียนจบแล้วนะครับ)
เริ่มเข้าปี
1 : ออกเดินทางไกลจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ